บล็อก

บล็อก
หน้าแรก> บล็อก

ตะเข็บโอเวอร์ล็อกและขอบเทป

Aug 24, 2025
Overlock และการเย็บขอบผ้าคืออะไร
Overlock คือกระบวนการเย็บขอบผ้าโดยใช้จักรเย็บผ้าแบบ Overlock ซึ่งใช้เส้นด้ายสามหรือสี่เส้น เพื่อสร้างรอยเย็บที่เรียบร้อย ป้องกันไม่ให้ผ้าเปื่อย และลดความหนาของรอยเย็บ การเย็บขอบผ้าอีกรูปแบบหนึ่งคือการเย็บผ้าแถบสำเร็จรูปแยกต่างหากไปตามขอบผ้าดิบ ซึ่งจะช่วยปกปิดขอบผ้าดิบ ป้องกันไม่ให้เปื่อย และเพิ่มความแข็งแรงให้ผ้า รวมทั้งยังช่วยตกแต่งให้ผ้าดูสวยงามขึ้น โดยทั่วไปจะเย็บด้วยมือเพื่อเพิ่มความหนาให้กับขอบผ้า การเย็บบานด์ดิ้ง (Banding) คือกระบวนการใช้แถบผ้าบางๆ เย็บทับบนขอบผ้าดิบที่อยู่ด้านในขณะเย็บผ้า เพื่อเพิ่มความทนทานและทำให้ดูสวยงามเมื่อเห็นขอบผ้าด้านใน
lilinrui_89219_close_up_fabric_edge_binding_with_overlocker_mac_3dd1d148-da10-4e4c-9ddd-769ea707a6c5.webp
ขั้นตอนการเย็บขอบผ้าด้วยจักร Overlock
เตรียมผ้า ชายขอบ และขอบชิ้นงาน: ตัดแต่งขอบชิ้นงานให้ตรง ตัดแถบชายกระโปรงให้กว้าง 2.5 นิ้ว รีดชายกระโปรงก่อนหากจำเป็น จากนั้นพับตามยาวตรงกลาง ตั้งค่าเครื่องเย็บโอเวอร์ล็อค: ใช้เฉพาะเข็มด้านซ้ายเพื่อเย็บให้ได้ตะเข็บแน่นและค่อนข้างหนา ปรับความกว้างการตัดของเครื่องเย็บโอเวอร์ล็อคให้เท่ากับ 6 มม. (1/4 นิ้ว) เพื่อจัดแนวชายกระโปรงให้ตรง เริ่มเย็บ: เย็บแถบชายกระโปรงทับบนขอบดิบของชิ้นงาน โดยจัดให้ขอบดิบตรงกัน เริ่มเย็บเป็นเส้นตรง ไม่ต้องเริ่มที่มุม แนวทางการเย็บ: ดำเนินการเย็บชายกระโปรงต่อไปตามขอบ เครื่องโอเวอร์ล็อคจะมีมีดตัดผ้าส่วนเกินใกล้ขอบออกโดยอัตโนมัติ เครื่องจะป้อนผ้าอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่จำเป็นต้องใช้หมุดกลัด พับมุมแบบเมิร์เตอร์ (Miter) เมื่อเย็บถึงมุม ให้พับชายกระโปรงเป็นมุมให้เรียบร้อย เพื่อรักษาความเรียบของขอบและป้องกันไม่ให้เกิดรอยย่น ตกแต่งชายกระโปรงให้เสร็จสมบูรณ์: เมื่อเย็บขอบเสร็จ ให้พับชายกระโปรงกลับด้านหน้า สามารถใช้ด้ายเย็บอุ่น (Heat-stitching thread) ในลูปเปอร์ด้านล่างเพื่อช่วยยึดชั่วคราว จากนั้นรีดผ้าให้เรียบ แล้วเย็บทับด้านบน โดยใช้ตะเข็บเย็บถอยหลังหรือเย็บซิกแซกแบบแคบเพื่อยึดขอบที่พับไว้ให้แน่น
22.jpg
การเย็บโอเวอร์ล็อกกับการเย็บขอบด้วยเทป: ข้อดีมากมายของการเย็บแบบโอเวอร์ล็อก
การเย็บแบบโอเวอร์ล็อกมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับการเย็บขอบด้วยเทปในการตกแต่งขอบผ้าในกระบวนการตัดเย็บเสื้อผ้า การเย็บแบบโอเวอร์ล็อกใช้เครื่องจักรพิเศษในการเย็บ ตัดแต่ง และตกแต่งขอบในเวลาเดียวกัน โดยใช้เส้นด้ายสามหรือสี่เส้นพร้อมกัน วิธีนี้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และให้ตะเข็บที่แข็งแรง เหมาะสำหรับทุกชนิดของผ้า โดยเฉพาะผ้าถักและผ้ายืดตัวอย่างเช่น สแปนเด็กซ์ นอกจากนี้ การเย็บแบบโอเวอร์ล็อกยังให้รอยเย็บที่สะอาดและดูเป็นมืออาชีพ เรียนรู้การใช้งานเครื่องได้ง่าย และสามารถผลิตได้ในความเร็วสูงเมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว การเย็บขอบด้วยเทปนั้นต้องเย็บเทปผ้าด้วยมือรอบขอบ โดยเพิ่มชั้นและทำให้เกิดความหนา วิธีนี้จำเป็นต้องใช้แถบเทปตกแต่ง เครื่องมือพิเศษ และทักษะที่ฝึกฝนมา วิธีนี้อาจใช้เวลามากกว่า ใช้วัสดุไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร สร้างขอบที่หนาเกินไปในเสื้อผ้าบางชนิด และทำให้เกิดรอยตะเข็บที่หนาโดยรวม
11.jpg
lilinrui_89219_overlock_vs_edge_binding_stitching_close_up_fabr_2b61e331-236b-443c-8efb-7bd7396c55cb.webp
เทคนิคการเย็บด้วยเครื่องโอเวอร์ล็อก
เครื่องเย็บโอเวอร์ล็อกสามารถสร้างตะเข็บและขอบที่แข็งแรงและเรียบร้อย เหมาะสำหรับผ้าถักและผ้ายืด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตัดเย็บเสื้อผ้าถัก โดยขณะเย็บจะทำการตัดส่วนตะเข็บส่วนเกินออก หุ้มขอบผ้าดิบเพื่อป้องกันไม่ให้เปื่อย และรักษายืดหยุ่นของตะเข็บเพื่อผลลัพธ์ที่ไร้รอยต่อ คำแนะนำสำคัญ: เพื่อให้การเย็บตะเข็บประสบความสำเร็จ ให้จัดแนวผ้ากับแนวชี้นำตะเข็บ และเย็บอย่างช้าๆ โดยใช้ระบบป้อนผ้าแบบต่างระดับสำหรับผ้าถัก เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้ายืดออก ตัวเลือกแบบเย็บตะเข็บ: เย็บแบบโอเวอร์ล็อกด้วยด้าย 4 เส้น เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับตะเข็บและขอบ ในขณะที่การเย็บแบบ 3 เส้นจะใช้สำหรับตกแต่งขอบเท่านั้น ส่วนแบบเย็บตะเข็บม้วน (Rolled hem) จะเหมาะกับตะเข็บของผ้าบางเบา ป้องกันไหล่ยืด: เพิ่มแถบผ้าริบบิ้นบนตะเข็บไหล่ของเสื้อผ้าถัก เพื่อป้องกันไม่ให้ยืดออก การม้วนชายเสื้อ: สำหรับผ้าที่ยืดได้ ให้ใช้เทคนิคเย็บแบบบอดฮีม (blind hem) แบบโอเวอร์ล็อกแคบ แบบม้วนชายเสื้อ หรือแบบเย็บโอเวอร์ล็อกสำหรับทำชายเสื้อ เย็บโค้ง: เย็บอย่างช้าๆ โดยค่อยๆ ดันผ้าออกด้านนอกของแนวโค้ง และระมัดระวังเป็นพิเศษในขณะเย็บเข้ามุมด้านใน เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าเกิดรอยย่น เตรียมเครื่อง: ใช้เข็มใหม่ ร้อยด้ายทั้ง 4 เส้นอย่างระมัดระวัง ปรับแรงดึงด้ายให้เหมาะสม และทดลองเย็บก่อนเริ่มต้นทำงานจริง การปักเข็ม: ใช้วิธีบีบให้ขนานกับตะเข็บ หรือใช้กาวช่วยในการติดผ้าหลายชั้นให้ตรงกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เข็มชนกับกาว และรักษาความตรงของชั้นผ้าขณะเย็บ
lilinrui_89219_close_up_hands_operating_sewing_machine_stitchin_20a49d95-2bc3-4b88-8f40-c679abac462d.webp
ตะเข็บโอเวอร์ล็อก | ไม่ต้องใช้เครื่องเย็บซีร์เกอร์
ใช้เทคนิคเหล่านี้บนจักรเย็บผ้า เพื่อเลียนแบบตะเข็บแบบโอเวอร์ล็อก โดยไม่ต้องใช้จักรซิร์กเกอร์ และป้องกันไม่ให้ชายผ้าเปื่อย: ตะเข็บซิกแซก (Zigzag Stitch): เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผ้าบางถึงกลาง ให้เย็บตามชายผ้าที่ยังไม่ได้ตกแต่ง โดยตั้งค่าความกว้างของตะเข็บซิกแซกที่ 4-5 และความยาวที่ 1-2 โดยใช้ตะเข็บนี้เย็บชายผ้าดิบกับชายผ้าดิบ ตั้งค่าตะเข็บแบบโอเวอร์ล็อก (Overlock Stitch Setting): จักรหลายรุ่นมาพร้อมตะเข็บโอเวอร์ล็อกที่รวมองค์ประกอบของทั้งตะเข็บซิกแซกและตะเข็บตรง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผ้าถัก ควรใช้เท้ากดแบบโอเวอร์ล็อกเพื่อให้ได้ตะเข็บที่เรียบร้อย! ตะเข็บซิกแซกรวมกับตะเข็บตรง (Zigzag Plus Straight Stitch): เมื่อเย็บผ้าหนา ให้รวมการเย็บตะเข็บซิกแซกกับตะเข็บตรง เพื่อเพิ่มความทนทาน โดยเย็บทั้งสองแบบทับกันเพื่อเสริมความแข็งแรงเป็นพิเศษ ตะเข็บบันไดเอียง (Slanted Ladder Stitch): เลียนแบบตะเข็บแบบซิร์กเกอร์ที่ยืดได้ สามารถปรับค่าความกว้างและความยาวได้ง่าย เพื่อให้ได้การปกคลุมชายผ้าที่เหมาะสม ตัดส่วนตะเข็บให้ชิด (Trim Seam Allowances): เพื่อเลียนแบบการตัดชายผ้าแบบซิร์กเกอร์ ให้ตัดส่วนตะเข็บให้ชิดกับรอยเย็บก่อนทำการเย็บ
ทางเลือกของการใช้จักรเย็บผ้าแบบโอเวอร์ล็อก
คุณสามารถใช้จักรเย็บผ้าธรรมดาสร้างลวดลายแบบโอเวอร์ล็อกเพื่อให้ได้ชายขอบที่เรียบร้อย: เย็บด้วยลายฟันปลา (Zigzag Stitch) เมื่อเย็บตามชายผ้าที่ยังไม่ได้ตกแต่งสำหรับผ้าบางถึงปานกลาง โดยใช้ลายฟันปลาที่ความกว้าง 4-5 นิ้ว และความยาว 1-2 นิ้ว (สำหรับผ้าบาง) ลายโอเวอร์ล็อก (Overlock Stitch): รวมลายตรงและลายฟันปลาเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ชายขอบที่มั่นคงและสวยงาม ลายฟันปลาสามขั้น (Three-Step Zigzag Stitch): ลายฟันปลาแบบสามขั้นช่วยรักษายืดหยุ่นของผ้าไว้ได้พร้อมทั้งปกป้องชายขอบได้อย่างยอดเยี่ยม ลายโอเวอร์ล็อกคู่ (Double Overlock Stitch): เป็นลายฟันปลาสองแถวพร้อมด้วยเส้นเย็บตรงเชื่อมระหว่างกลาง เหมาะสำหรับผ้าที่สึกหรอมาก ลายสี่เหลี่ยมคางหมู (Trapezoid Stitch): ให้ความยืดหยุ่นและความแข็งแรงคล้ายกับลายโอเวอร์ล็อก ลายฟันปลาผสมลายตรง (Zigzag with Straight Stitch): เพื่อความทนทานมากขึ้น ให้ผสมลายฟันปลาเข้ากับลายตรงเพื่อเพิ่มความแข็งแรงภายใน
เคล็ดลับพิเศษสำหรับการเย็บแบบโอเวอร์ล็อก
ลดความหนาแน่นที่ตะเข็บตัดกัน: ที่จุดตัดตะเข็บที่หนา ให้ใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นเล็กๆ บนส่วนตะเข็บ (ไม่ตัดทะลุตะเข็บ) ด้านตรงข้ามกัน เพื่อกระจายความหนาออกไปด้านนอก วิธีนี้จะช่วยให้เย็บด้วยเครื่องง่ายขึ้น และได้ผลการเย็บที่มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น สำหรับเนคแบนด์และตะเข็บวงกลม: ให้ตัดรอยปริเล็กๆ ทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของตะเข็บวงกลม เพื่อป้องกันผ้าไม่ให้เกิดการบาน และเพื่อให้การจัดแนวแม่นยำยิ่งขึ้น การม้วนชายเสื้อผ้าถักโดยไม่ใช้เครื่องเย็บแบบ Coverstitch: พับชายเสื้อผ้าสองครั้ง ปลดปล่อยใบมีดออก และเย็บจากด้านใน โดยเย็บให้ได้เพียงแค่ขอบที่พับไว้ เพื่อให้ได้ชายเสื้อที่เรียบร้อยและยืดหยุ่นได้ ปรับค่าการป้อนแบบต่างระดับ: การปรับค่าการป้อนแบบต่างระดับสามารถช่วยป้องกันการยืดหรือย่นของผ้าถักที่มีลักษณะโค้ง ร้อยด้ายและแรงดึง: สำหรับเครื่องเย็บแบบ 4 เส้นด้าย ให้ร้อยเส้นด้ายแต่ละเส้นอย่างระมัดระวังให้ตรงกันอย่างเหมาะสม และปรับแรงดึงให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ตะเข็บที่สม่ำเสมอ ทดสอบเย็บบนเศษผ้า: ควรฝึกเย็บบนเศษผ้าเสมอ เพื่อปรับความยาวตะเข็บ แรงดึง การตั้งค่าการป้อนแบบต่างระดับ และการตั้งค่าใบมีดให้เหมาะสม วิธีแกะตะเข็บโอเวอร์ล็อกให้ถูกต้อง: ศึกษาเทคนิคในการแกะตะเข็บโอเวอร์ล็อกอย่างปลอดภัย โดยไม่ทำให้ผ้าเสียหาย
ผลิตภัณฑ์แนะนำ

รับใบเสนอราคาฟรี

ตัวแทนของเราจะติดต่อคุณในไม่ช้า
อีเมล
ชื่อ
ชื่อบริษัท
ข้อความ
0/1000